สลากไทพลัส สถานที่เที่ยวน่าสนใจ : 6 สถานที่ ประเทศเวียดนามที่ควรเก็บไว้ในลิสต์ ห้ามพลาด

สลากไทพลัส สถานที่เที่ยวน่าสนใจ : เวียดนามมีทั้งเมืองใหญ่ที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยรถและผู้คน และความงามทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์และน่าทึ่งติดอันดับโลก จากภูเขาที่เต็มไปด้วยหมอกปกคลุม ทุ่งนาเชียวขจี และน้ำตกสูงที่ให้บรรยากาศสดชื่นของเวียดนามตอนเหนือ ไปจนถึงหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าครามใสของชายหาดทางตอนใต้ ไฮไลท์ ที่เที่ยวเวียดนาม มีมากมาย จนติดอันดับในประเทศยอดนิยมของนักเดินทาง ได้รวบรวม 6 สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในเวียดนามมาให้คุณเตรียมตัวเที่ยวเวียดนามกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แต่ละแห่งและวิธีการเดินทาง ไฮไลท์ ที่เที่ยวเวียดนาม มีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

ซาปา (Sapa)



ซาปาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนามซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนจีน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มเมฆท่ามกลางเทือกเขาที่สูงตระหง่านเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร และล้อมรอบด้วยนาข้าวขั้นบันไดที่เขียวขจี (คุณต้องไปเที่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสมของปี!)

นอกจากชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ซาปายังมีวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของตนเอง จากหมู่บ้านเล็กๆ ที่กระจายตัวอยู่บนเนินเขา ซึ่งเป็นบ้านของชนกลุ่มน้อยหลากหลายเผ่าพันธุ์ 

จากการผสมผสานทั้งวัฒนธรรมและความงามตามธรรมชาติทำให้ซาปาควรค่าแก่การเยี่ยมชมหากคุณมีโอกาส แม้ว่าสถานที่ห่างไกลจะทำให้การเดินทางลำบาก แต่ก็เป็นสิ่งที่รักษาความงดงามของทัศนียภาพและมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานไว้เป็นเวลานาน!

ช่วงเวลาเที่ยว:

ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมเป็นเดือนที่ดีที่สุดในการชมนาขั้นบันไดหรือช่วงที่อากาศดีและท้องฟ้าแจ่มใสคือช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 

วิธีการเดินทาง:

ไม่มีเที่ยวบินไปซาปา วิธีที่ดีที่สุดคือนั่งรถไฟข้ามคืนมาลงที่เมืองลาวไค (Lao Cai) และต่อรถตู้ขึ้นเขา หรืออีกทางหนึ่งคือนั่งรถโดยสารประจำทางหรือรถตู้จากฮานอยประมาณ 5-6 ชั่วโมงมาลงที่กลางเมือง

กิจกรรมแนะนำ:

เดินเขาเที่ยวระหว่างหมู่บ้านเพื่อดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันตระการตาและสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของหมู่บ้านชาวเขา หรือหากการเดินเขาไม่ใช่ทางที่คุณชอบ คุณสามารถสำรวจจุดที่สวยงามที่สุดได้ด้วยการเดินทางแบบไปเช้าเย็นด้วยรถยนต์


มุยเน่ (Mui Ne)



มุยเน่ เป็นเมืองทางชายฝั่งทะเลในจังหวัดบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) ทางภาคกลางตอนใต้ของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในเมืองพักตากอากาศยอดฮิตสำหรับชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ แหล่งรวมพิกัดคูลๆ ที่ไม่ต้องบินไปเที่ยวไกลๆ ถึงแม้จะไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะเท่าเมืองใหญ่ๆ แต่ที่เที่ยวธรรมชาติของที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้เมืองอื่น ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวเวียดนาม จดมุยเน่ลงในลิสต์ รับรองไม่มีผิดหวัง

ไฮไลท์ของมุยเน่ก็คือเนินทราย (Sand Dunes) ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนินทรายเป็นเกราะป้องกันพายุและการกัดเซาะชายหาด และเป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ทำให้เกิดความหลากหลายทางธรรมชาติ เนินทรายที่มุยเน่มีทั้งหมด 18 เฉดสีด้วยกันค่ะ และเนินทรายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่สุดคือทะเลทรายขาว (White Sand Dunes) ที่กินพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาและสวยงามมากเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และเนินทรายแดง (Red Sand Dunes) ที่ประกอบด้วยเนินเขาสีทองแดงที่เปล่งประกายเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน 

นอกจากนี้สถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือลำธารนางฟ้า (Fairy Stream) ที่เกิดจากภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ที่ถูกกัดเซาะด้วยน้ำและลม จนกลายเป็นร่องหินไล่เฉดสีเข้มอ่อนอย่างน่าอัศจรรย์ ยาว 20 เมตร และมีลำธารไหลผ่าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินลุยน้ำไปตามลำธารค่ะ ดังนั้นต้องเตรียมชุดมาให้พร้อมนะคะ

ช่วงเวลาเที่ยว:

มุยเน่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่วิเศษสุดในเวียดนาม คุณจะเพลิดเพลินไปกับสภาพอากาศที่สบายตลอดทั้งปี ถ้าต้องการเล่นเซิร์ฟและใช้เวลาที่ชายหาด ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือระหว่างเดือนธันวาคมถึงเมษายน

วิธีเดินทาง:

ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเครื่องบินไปลงที่โฮจิมินห์ซิตี้ก่อน แล้วค่อยนั่งรถบัสเดินทางไปที่มุยเน่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง นอกจากนี้การเรียกแท็กซี่จากโฮจิมินห์ซิตี้ ก็เป็นทางเลือกที่ดี แม้ราคาอาจจะแพงหน่อย แต่คุณสามารถจองแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังมุยเน่เวลาใดก็ได้ (ใช้เวลาขับรถ 4 ชั่วโมง) ถ้าจะเดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศจากโฮจิมินห์ซิตี้ไปมุยเน่ มีเที่ยวบินประมาณ 1 เที่ยวต่อวัน หรือเดินทางด้วยเรือเร็วจากโฮจิมินห์ซิตี้มี 2 เที่ยวต่อวัน คือรอบเช้าและรอบบ่าย หากคุณต้องการใช้เวลาบนเนินทรายมากขึ้น คุณสามารถพักในหมู่บ้านชาวประมงมุยเน่ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเรียงรายไปด้วยหาดทรายสีทองสวยงาม ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการเล่นว่าวและวินด์เซิร์ฟ

ดานัง (Da Nang)



ดานังเป็นอดีตหมู่บ้านชาวประมง เมืองท่าสำคัญของเวียดนามกลาง ที่นี่เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดของเวียดนามกลาง เพราะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หาดทรายขาวที่ขึ้นชื่อ วิวที่สวยงามของภูเขาหินอ่อน งานศิลปะผ้าไหมปัก สถานบันเทิงยามค่ำคืน สตรีทฟู้ด รวมถึงร้านอาหารทะเลสดและอร่อย ทำให้ดานังดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกไว้ได้

บรรยากาศของเมืองดานังคึกคักไปด้วยผู้คน เรือสินค้าที่จอดเรียงรายอยู่ริมฝั่งน้ำ กับเรือประมงเล็กๆ ของชาวบ้านใช้ออกหาปลา ตลอดจนตึกรามบ้านช่องสมัยใหม่สีสันสดใส นอกจากนี่ ยังมีหาดหมีเคว (My Khe) หาดทรายสีขาวที่สวยงามพร้อมกีฬาทางน้ำมากมาย หรือแวะเยี่ยมชมบานาฮิลส์ เมืองท่องเที่ยวที่เคยเป็นสถานที่ตากอากาศของชาวฝรั่งเศสมาตั้งแต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี ค.ศ.2009 พร้อมกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตรที่ต้องใช้เวลาถึง 50 นาที นับว่าเป็นการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย

คุณไม่ควรพลาดสะพานทองคำยาว 150 เมตรที่คุณจะได้เห็นมือหินยักษ์สองมือโผล่ออกมาจากภูเขาเพื่อประคองสะพานสีทอง สะพานแห่งนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ที่คุณจะได้ชมทิวทัศน์มุมกว้างของเมือง ตลอดจนภูมิทัศน์ธรรมชาติโดยรอบ

ช่วงเวลาเที่ยว:

สภาพอากาศในดานังจะดีที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม อากาศอบอุ่นและท้องฟ้าแจ่มใส เดือนที่ร้อนที่สุดคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ในขณะที่ฤดูฝนจะมีฝนตกชุกตั้งแต่เดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์

วิธีเดินทาง:

คุณสามารถหาเที่ยวบินจากกรุงเทพไปลงที่สนามบินนานาชาติดานัง (DAD) หรือเที่ยวบินภายในประเทศจากเมืองใหญ่ นอกจากนี้ ดานังอยู่บนเส้นทางรถไฟสายหลักที่ให้บริการจากฮานอย เว้ และโฮจิมินห์ซิตี้ หรือใช้บริการรถโดยสารประจำทางหรือรถส่วนตัว


ญาจาง (Nha Trang)




เมืองญาจางอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามอดีตเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรจามปามาก่อน ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ก่อเกิดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 2 และรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 9-10โดยพื้นที่ของอาณาจักรจามปาจะครอบคลุมอยู่บริเวณเวียดนามกลางและเวียดนามใต้แถบแนวฝั่งทะเลจีนใต้ สิ่งที่บ่งบอกว่าญาจางเคยเป็นอาณาจักรเก่าแก่มาก่อนก็คือปราสาทโปนาคา (Po Nagar Cham Towers) มีลักษณะเป็นปราสาทที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบขอมและฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7-12 เลยทีเดียว

ปัจจุบันญาจางเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยฉากหลังของภูเขาที่สวยงาม ชายหาดพระจันทร์เสี้ยวที่กว้างใหญ่และสวยสะอาดตา และอ่าวสีฟ้าครามที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวรองรับหลากหลายแบบทั้งที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ วัดวาอาราม รวมไปถึงสวนสนุกขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีค่าครองชีพไม่แพง ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีสนามบินในเมืองใกล้ๆ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไมญาจางจึงเป็นรีสอร์ทริมชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม



ช่วงเวลาเที่ยว:

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมญาจางคือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายและไม่ค่อยมีฝน ทัศนวิสัยในการดำน้ำก็ดีที่สุดเช่นกันในช่วงเดือนนี้ และผู้ชื่นชอบการดำน้ำจะหลงรักแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์ของทะเลในเมืองญาจาง

วิธีเดินทาง:

เมืองญาจางอยู่ใกล้ไทยเพียงนิดเดียว ถ้าหากเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ก็จะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ราว ๆ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติกามซัญ (Cam Ranh International Airport) ที่ห่างจากญาจางประมาณ 30 กิโลเมตร หากคุณไปเที่ยวเมืองอื่นด้วย คุณสามารถเดินทางไปญาจางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศจากเมืองใหญ่ๆ ในเวียดนาม เช่น ฮานอย โฮจิมินห์ และดานัง หรือเดินทางโดยรถไฟหรือรถยนต์ส่วนตัว


เกาะฟูโกว๊ก (Phu Quoc Island)



เกาะฟูก๊วกอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตอนใต้ของเวียดนามประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นสวรรค์เขตร้อนที่มีหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลเป็นประกาย ป่าเขียวชอุ่มและน้ำตกที่มีมนต์ขลัง ที่นี่เป็นเกาะเงียบสงบ และมีขนาดเล็กพอที่จะสำรวจชายหาดกว่าสิบแห่งได้ด้วยจักรยานหรือสกู๊ตเตอร์ ทางด้านตะวันตกของเกาะจะมีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าคราม และชมวิวอันสวยงามตอนพระอาทิตย์ตกดิน 
นอกจากกิจกรรมการดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และล่องเรือนี้ คุณยังสามารถเข้าไปในป่าเพื่อสำรวจเส้นทางเดินป่าและชมสัตว์ป่า หรือแวะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมืองดวงดง (Duong Dong) ที่มีชีวิตชีวามากมาย มีขายทั้งงานฝีมือและอาหารทะเลสด

ช่วงเวลาเที่ยว:

พฤศจิกายนถึงมีนาคมเป็นฤดูท่องเที่ยวของฟู้โกว๊ก โดยมีอากาศอบอุ่นและท้องฟ้าสีคราม ตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายนยังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเยี่ยมชมโดยมีนักท่องเที่ยวน้อยลงและป่าไม้ที่สวยงามหลังจากฝนตกหนักตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน

วิธีเดินทาง:

เกาะฟูก๊วกสามารถเข้าถึงได้ด้วยเที่ยวบินภายในประเทศจากเมืองใหญ่ๆ เช่น ฮานอย โฮจิมินห์ และดานัง หรือบริการรับส่งส่วนตัวและเรือข้ามฟากความเร็วสูงไปยังเกาะ


ฮอยอัน (Hoi An)



ฮอยอัน (Hoi An) คือเมืองในจังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) เป็นหนึ่งในเมืองที่เป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่มีบรรยากาศและมีเสน่ห์ที่สุดของเวียดนาม มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังหลงเหลืออยู่มากมาย คุณจะสนุกกับการสำรวจย่านเมืองเก่าที่เป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมทั้งเวียดนาม จีน และญี่ปุ่น เพราะในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงพีคที่สุดของฮอยอันคือราวศตวรรษที่ 16-17 เพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายและตั้งถิ่นฐานเต็มไปหมด นอกจากหลักๆ ที่เป็นคนจีน ญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีชาวดัตช์และอินเดียที่เข้ามาเยอะมาก

เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1999 เหมาะสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่ายังคงอนุรักษ์มรดกอันน่าทึ่งไว้ในสภาพเดิมได้อย่างดี ทั้งบ้านพ่อค้าญี่ปุ่น ตึกแถวสไตล์จีน อาคารยุคอาณานิคมฝรั่งเศส และโกดังชาโบราณ แถมยังทาสีสันสดใส ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษแบบเวียดนาม 

แม้ว่าร้านค้าเก่าหลายแห่งจะเปลี่ยนเป็นธุรกิจสมัยใหม่ เช่น ร้านตัดเสื้อ หอศิลป์ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร แต่เมืองนี้ยังคงเสน่ห์และบรรยากาศที่ล้าสมัยไว้ ทุกคืนไฟฟ้าในเมืองเก่าจะถูกปิดและโคมไฟไหมแบบดั้งเดิมจะถูกแขวนไว้ที่หน้าร้านทุกแห่ง ตะเกียงหลากสีสว่างไสวไปตามถนนและส่องแสงระยิบระยับสุดโรแมนติกเหนือแม่น้ำทูโบน

ช่วงเวลาเที่ยว:

ช่วงที่ดีที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวฮอยอันคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน คุณจะพบกับอุณหภูมิที่อุ่นสบายและมีฝนตกเล็กน้อย หากต้องการชมพระจันทร์เต็มดวงในช่วงเวลาที่สวยที่สุดแห่งปีควรไปช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม แต่ก็ต้องแลกกับอากาศที่ร้อนมาก

วิธีการเดินทาง:

วิธีที่ง่ายที่สุดในการไปถึงฮอยอันคือบินมาที่ดานัง ซึ่งอยู่ห่างจากฮอยอันเพียง 40 นาที แล้วเดินทางต่อด้วยรถไฟหรือรถยนต์ส่วนตัว

            บทความแนะนำเพิ่มเติม

ความคิดเห็น